วัดพะโคะ เป็นวันเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของชาวจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บริเวณเขาพัทธสิงค์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ ห่างจากอำเภอเมืองสงขลา ประมาณ 48 กิโลเมตร เหตุที่เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั่นก็เพราะเป็นวัดที่จำพรรษาของสมเด็จพะโคะหรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงคุณอันวิเศษและมีควาแตกฉานในพระพุทธศาสนาอย่างถึงแก่น ได้ช่วยกู้บ้านเมืองจากคณะสังฆทูตจากกรุงลังกาในสมัยพระเจ้าเอกาทศรถ ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงลังกาในสมัยนั้นต้องการจะได้กรุงศรีอยุธยามาเป็นประเทศราช แต่ไม่ต้องการที่จะให้มีการรบราฆ่าฟันด้วยอาวุธ จึงออกอุบายด้วยการท้าพนันแปลพระคัมภีร์ 84,000 อักษรบาลีที่หล่อด้วยทองคำขนาดเท่าใบมะขาม ซึ่งเมื่อเหลือกำหนดเพียงแค่หนึ่งวันก็ยังมิมีผู้ใดแปลและเรียบเรียงให้ถูกต้องได้ แต่ภายในคืนนั้นเององค์พระเอกาทศรถได้ทรงสุบิน (ฝัน)ว่ามีช้างเผือกลักษณะงดงามน่าเกรงขาม เข้ามาหาส่งเสียงร้องดังกึกก้องจนพระองค์สะดุ้งตื่นจากบรรทม โหรหลวงจึงได้ทำนายว่าเป็นพระสุบินที่เป็นมงคล พระองค์จะมีชื่อเสียงโด่งดัง และจะมีผู้มาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในครั้งนี้ได้ ซึ่งก็คือภิกษุหนุ่มที่มาจากทางใต้นามว่าปู ( หลวงปู่ทวด ) นั่นเอง
จากตำนานและเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับหลวงปู่ทวด หลวงพ่อทวด ซึ่งก็คือบุคคลเดียวกับ สมเด็จวัดพะโคะ นามนี้ท่านได้มาหลังจากทูลลาพระมหากษัตริย์จากกรุงศรีอยุธยากลับมายังบ้านเกิดเพื่อจำพรรษายังวัดแห่งนี้ ชาวบ้านต่างชื่นชมยินดีและเรียกขานท่านว่าสมเด็จวัดพะโคะในช่วงเวลานั้น วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดที่สำคัญที่ประชาชนทั่วไปที่มีความเคารพและศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด ควรจะได้มาเยือนซักครั้งเพื่อระลึกถึงคุณความดี และบารมีของท่านที่ได้ทำไว้ หลวงปู่ทวดเป็นปูชนียบุคคลที่มิใช่เพียงประชาชนทางใต้เราให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวมาเลยเซียและสิงคโปร์ต่างก็รู้จักนับถือและเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เพราะต่างได้พบเจออภินิหารต่าง ๆ จากบารมีหลวงพ่อทวดจนเป็นที่ล่ำลือและเล่าขานสืบต่อกันมาช้านาน แม้ท่านจะมรณภาพไปนานสามร้อยกว่าปีแล้วก็ตาม พลังศรัทธาและความนับถือของประชาชนทั่วไปต่อ "หลวงปู่ทวด"ยังคงมีให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
วัดพะโคะแห่งนี้แม้ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นชื่อเป็นทางการว่า วัดราชประดิษฐาน แต่ชาวบ้านและคนทั่วไปยังคงนิยมเรียกกันติดปากว่าวัดพะโคะอยู่อย่างเดิม สิ่งก่อสร้างภายในวัดมีที่น่าเข้าชม ได้แก่ พระสุวรรณมาลิก เจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งภายในมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากลังกา และมีพระพุทธไสยาสน์ หรือพระโคตมะ พระพุทธรูปปั้นสีทองปางปรินิพพานยาว 18 เมตร สูง 2.5 เมตร ฝีมือช่างท้องถิ่น รอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปยอดเขา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยเท้าหลวงพ่อทวดประทับไว้ รวมถึงมีรูปจำลองและอนุสาวรีย์หลวงปู่ทวดประดิษฐานอยู่ในมณฑปบนยอดเขาเคียงคู่กับรอยพระพุทธบาทเพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะ รวมถึงมีห้องจำวัดและข้าวของเครื่องใช้ของหลวงปู่ทวดที่จำลองไว้เหมือเมื่อสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ไว้ให้ชม ส่วนของพิพิธภัณฑ์วัดพะโคะได้เริ่มเปิดให้ชมเมื่อปี พ.ศ. 2536 โบราณสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ในวัด ได้แก่ พระมาลิกเจดีย์ (พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนธาตุ) ซึ่งเป็นเป็นเจดีย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
สามารถเดินทางมายังวัดแห่งนี้โดย ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 407 ตามทางสะพานติณสูลานนท์ แล้วเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4083 เลียบชายฝั่งทะเลช่วงสงขลา-สทิงพระ หลักกิโลเมตรที่ 110 ทางซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพะโคชัดเจน ระยะทางจากตัวเมืองสงขลาถึงวัดพะโค ประมาณ 48 กม.
Comment
Rate : / 5